GENTING-CLUB

Genting-Club.com บริการ คาสิโนออนไลน์, บาคาร่าออนไลน์, เดิมพันกีฬาออนไลน์ สมัครคาสิโน สมัครแทงบอล ง่าย สะดวก สมาชิกใหม่ใช้เวลาเพียง 15 นาที ฝาก-ถอน ได้ทุกวัน genting club บริการตลอด 24 ชั่วโมง

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

          วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลายคู่เมื่อคืนนี้ สนุกทีเดียวเชียว เริ่มกันที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกไปเสมอกับ สาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล 2 ประตูต่อ 2 สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค โดยทีมเยือนส่ง หลุยส์ ซัวเรซ เล่นหน้าคู่กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ขณะที่ เจ้าบ้านฝากความหวังที่ โลอิก เรมี่ กับ โยฮัน กูฟฟร็อง นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูแรก นาทีที่ 23 จากจังหวะที่ โยฮัน กาบาย ฉายเดี่ยว พาบอลมาจากกลางสนาม มาถึงกรอบเขตโทษ ก่อนซัดไกลเปรี้ยงเดียว บอลพุ่งกระดอนพื้นเสียบเสาสองไปอย่างสวย นิวคาสเซิ่ล นำ 1-0 นาทีที่ 40 มีจุดเปลี่ยนของเกมทันที เมื่อ มาปู ย็องกา-เอ็มบิว่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าบ้าน ไปดึง หลุยส์ ซัวเรซ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ ชี้เป็นลุกจุดโทษ พร้อมควักใบแดงให้  ย็องกา-เอ็มบิว่า อีกด้วย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำประตูที่ 100 ของตัวเอง พร้อมกับ ตีเสมอ ให้ ลิเวอร์พูล 1-1 ก่อนหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ นาทีที่ 56 เจ้าบ้าน ได้ประตูนำอีกครั้ง เมื่อ โยฮัน กาบาย วางบอลข้ามมาถึงเสาสอง พอล ดัมเมตต์ วิ่งมาแปสวนตัว ซิมง มินโญเลต์ ไป ให้ นิวคาสเซิ่ล นำ 2-1 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 72 สาวก ลิเวอร์พูล ได้เฮกันครั้ง เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดเข้ากลางให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โหม่งจ่อๆ ไม่เหลือ ลิเวอร์พูล ตามเสมอ 2-2 ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา จึงเสมอกันไปอย่างสนุก 2-2

          วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ต่อไป "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดทำได้แค่เสมอกับ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 1-1 โดยเจ้าบ้านยิงนำก่อน ในนาทีที่ 26 อัดนาน ยานูซาย ผ่านทะลุให้ รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงติด โบรุช แล้วยังมี ฟาน เพอร์ซี่ เกี่ยวบอลหนีแล้วยิงด้วยซ้ายผ่านกองหลังนักบุญที่พุ่งสไลด์หน้าประตูตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ 1-0 แต่สุดท้ายโดนทีมเยือนเอาคืนช่วงท้ายเกม นาทีที่ 89 เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ก่อน เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เปิดยาวมาที่หน้าประตู เดยัน ลอฟเรน เข้าชาร์จในกรอบไม่เหลือ ให้ทีมนักบุญ ไล่มาเป็น 1-1 ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 1-1


          คู่ต่อไปเป็น "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนจากลิเวอร์พูล หลังเปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ถล่ม นอริช ซิตี้ สบาย 4-1 อาร์เซน่อล ได้รับข่าวดี จากการได้ เมซุต โอซิล หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ทัน พร้อมประสานงานกับกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมอีกสองคนทั้งแจ็ค วิลเชียร์ และ ซานติ กาซอร์ล่า ที่เพิ่งคัมแบ็กกลับมาลงสนามเช่นกัน ทางด้าน นอริช ซิตี้ เปลี่ยนใช้ แกรี่ ฮูเปอร์ ลงเล่นในแดนหน้าแทน ริคกี้ ฟาน โวล์ฟส์วิงเคิ่ล ที่ไม่มีชื่อทั้งใน 11 ตัวจริงและตัวสำรอง กองกลางยังเป็นการประสานงานกันของ โรเบิร์ต สน็อดแกรสส์ และ แอนโทนี่ พิลคิงตัน เช่นเคย เจ้าบ้านได้ประตูจาก แจ็ค วิลเชียร์ นาทีที่ 18 ลูกที่สอง นาทีที่ 58 ชิรูด์ ตั้งป้อม หยอดบอลเข้าเขตโทษ ให้ เมซุต โอซิล ขึ้นโหม่งเข้าประตูไป ขก บอลลอยผ่านมือจอห์น รัดดี้ เข้าประตูไป อาร์เซน่อล ขยับหนี 2-0 จากประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ของ เมซุต โอซิล ถัดมานาทีที่ 70 นอริช ไล่มาเป็น 2-1 จากการยิงของ จอนนี่ ฮาวสัน นาทีที่ 83 อาร์เซน่อล มาได้ประตูย้ำชัย จากการที่ อารอน แรมซี่ย์ ล็อคบอลหลบกองหลังนอริชถึง 3 ตัว แล้วได้แปนิ่มๆ ผ่านตัวจอห์น รัดดี้ บอลตุงตาข่าย 5 นาทีต่อมา อาร์เซน่อล บวกสกอร์เพิ่มได้อีก เมื่อ โทมัส โรซิคกี้ วางบอลไปที่เสาสองให้ อารอน แรมซี่ย์ แปะคืนกลับมาให้ เมซุต โอซิล วิ่งมาแปไม่เหลือ ปืนใหญ่ นำห่าง 4-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

          วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ต่อไป "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ทำเสียวโดนยิงก่อน เอาคืนทีเดียว เปิดบ้านถล่ม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ยับ 4-1 เอแด็น อาซาร์ เบิ้ล 2 ประตู เก็บสามคะแนนได้อีกเกม แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นมาอยู่ที่ 2 โดยแต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียดีกว่า เจ้าถิ่น เชลซี ต้องขาด แอชลีย์  โคล ที่ยังเจ็บซี่โครง ส่งผลให้ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ได้รับหน้าที่แบ็กซ้ายแทน ส่วน เฟร์นานโด ตอร์เรส พ้นแบนแล้วแต่ยังนั่งสำรอง โดยหน้าเป็าเป็นซามูเอล เอโต้ ทางด้าน ทีมเยือน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ยังไม่มี อันเดรียส คอร์เนลิอุส ที่บาดเจ็บข้อเท้า เช่นเดียวกับเคร็ก เบลลามี่ ที่ยังไม่ฟิต ประตูแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 10 เป็นของทีมเยือน จากจังหวะที่ เดวิด มาร์แชลล์ วางบอลยาวจากแดนตัวเอง บอลมาถึงจอห์น เทอร์รี่ แต่สกัดไม่ดี แถม ลุยซ์ ยังพลาดปล่อยบอลข้ามหัวหวังให้ปีเตอร์ เช็ก ออกมาทว่าไม่รู้กันทำให้โดน จอร์ดอน มัตซ์ ตามเข้าไปเก็บบอลแล้วชิพข้ามหัว เช็ก ตุงตาข่าย คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ นำ 1-0 เจ้าบ้านมาได้ 4 ประตูรวด นาทีที่ 33 เอโต้ แหย่บอลไปเข้าทางอาซาร์ ก่อนจ่ายคืนมาให้หัวหอกแคเมอรูน ล็อกหลบนายด่านทีมเยือน แล้วโดยแกรี่ เมเดล สกัดแต่ยังไปเข้าเท้าเอแด็น อาซาร์ ยิงไม่พลากดสกอร์เป็น 1-1 และ 2-1 นาทีที่ 67 จากจังหวะ ออสการ์ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้อาซาร์ แทงต่อไปถึง ซามูเอล เอโต้ ล็อกหลอกกองหลังหนึ่งจังหวะแล้วยิงยักเสาแรกเข้าไปอย่างสุดคม และเป้นประตูแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก นาทีที่ 77 เชลซี มาได้ประตูที่สามจากความผิดพลาดของอารอน กุนนาร์สสัน ที่เสียบอลให้ รามิเรส แหย่สกัดไปถึง ออสการ์ จบบอลหน้าเขตโทษแล้วตะบันเน้นๆ บอลพุ่งเสียบคานเข้าไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่นนำห่าง 3-1 และประตูปิดท้าย นาที่ 82 อาซาร์ ทำชิ่งกับ แลมพาร์ด ทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนกระชากเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วยิงทันที บอลพุ่งแรงลอดตัวมาร์แชลล์ เข้าไปไม่เหลือ เชลซี นำ 4-1 ก่อนที่เกม 90 นาที จะจบที่สกอร์นี้
 
          วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ต่อไป เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ดาวยิงตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งหลังเหมาคนเดียวสองตุงช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปคว้าชัยเหนือ เวสต์แฮม 3 ประตูต่อ 1 เก็บเพิ่มสามแต้มขยับขึ้นไปอยู่ที่ 4 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มเกมขึ้นมา เรือใบสีฟ้า ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 15 แฟร์นันดินโญ่ แทงบอลไปหน้าเขตโทษ เนเกรโด้ หลอกปล่อยผ่านทะลุไปให้ "กุน" อเกวโร่ หลุดไปดวลกับยัสเคไลเน่น ก่อนยิงเสียบเสาเข้าง่ายๆ ทีมเยือนบุกนำ 1-0 ประตูที่สองเกิดขึ้นในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 เป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มาได้ประตูที่สอง โดยมาจากจังหวะเปิดฟรีคิกทางซ้ายของ ดาบิด ซิลบา ไปที่เสาแรกให้ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ โหม่งจ่อๆ เสียบเสาเข้าไป "เรือใบสีฟ้า" นำ 2-0 ถัดมานาทีที่ 58 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่นเมื่อ "ขุนค้อน" ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะโยนบอลเข้ามาลุ้นในเขตโทษ จังหวะสุดท้าย ดาวนิ่ง โหม่งที่เสาสองไปให้ ราเวล มอร์ริสัน กระดกบอลไปต่อถึง ริคาร์โด้ วาซ เท ตีลังกายิงผ่านโจ ฮาร์ท เข้าไป เจ้าบ้านพยายามเดินเกมรุกเพื่อลุ้นตีเสมอทว่ากลับมาโดนประตูที่สามในนาทีที่ 80 จากการประสานงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อยาย่า ตูเร่ แทงบอลให้ "กุน" หลุดเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ ก่อนตอกส้นให้ดาบิด ซิลบา โชว์ความนิ่งหลอกกองหลังก่อนปั่นด้วยซ้ายเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้ วินนิ่งเอฟที ผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น