เดิมพันกีฬา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ถล่ม นอริช 5 ประตูต่อ 1 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจ้าบ้านจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแทบทุกตำแหน่ง
แต่แบ็คซ้ายไม่มี โฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่มีอาการบาดเจ็บหัวเข่าเลยต้องใช้ จอห์น
ฟลานาแกน ลงมาเล่นแทน ในแดนกลางได้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคุมเกมกับ จอร์แดน
เฮนเดอร์สัน ปล่อยให้ ฟิลิปป์ คูตินโญ่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำเกมรุกสนับสนุน
หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกตัวเป้าชาวอุรุกวัยที่ซัดไปแล้ว 8 ประตู
เข้าทะลวงตาข่าย ทางด้าน "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช วาง โยฮัน
เอลมานเดอร์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า พร้อมได้ โจนาธาน ฮาวสัน กับ เลรอย เฟอร์ คุมเกมตรงกลางสนาม
ประตูแรกเกิดขึ้นนาทีที่ 15 หลุยส์ ซัวเรซ
วอลเลย์ลูกใบไม้ร่วงแบบไม่จับจากระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงามให้
หงส์แดง นำก่อน 1-0 เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 29 หงส์แดงมาหนีห่าง 2-0 เมื่อ ฟิลิเป้ คูตินโญ่
โยนลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้ามา สเคอร์เทล ก้มหลบบอลเลยมาถึง หลุยส์ ซัวเรซ โถมเข้าซัดวอลเลย์ด้วยซ้ายระยะเผาขนตุงตาข่ายไม่เหลือ
ผ่านมา 35 นาที หงส์แดง มาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่
ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายไปให้ หลุยส์ ซัวเรซ กระดกบอลข้ามหัว เลรอย เฟอร์
อย่างเหนือชั้น ก่อนเอียงตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาระยะ 20 หลา
ผ่านมือ จอห์น รัดดี้ นายทวารนอริชเสียบเสาไกลเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล นำขาด 3-0
เป็นแฮตทริคของซัวเรซ ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หงส์แดง
มาได้ประตูที่สี่จนได้ในนาทีที่ 74 จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกเยื้องมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย
หลุยส์ ซัวเรซ ปั่นโค้งด้วยขวาบอลเลี้ยวข้ามกำแพงเสียบเสาเข้าไปสุดงามให้
ลิเวอร์พูล นำกระจาย 4-0 เป็นประตูที่สี่ของซัวเรซในเกมนี้
และประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ ท้ายเกมนาทีที่ 83
นกขมิ้นเหลืองอ่อน มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ นาธาน เร้ดมอนด์
โยนจากทางด้านซ้ายให้กับ แบร๊ดลี่ย์ จอห์นสัน สอดมาโหม่งเช็ดเข้าเสาไกลไปให้ นอริช
ไล่มา 1-4 นาทีที่ 88 หงส์แดง
ยังไม่เพลาเก็บบุก หลุยส์ ซัวเรซ เลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายบอลให้ ราฮีม
สเตอร์ลิ่ง ยิงเสียบตาข่ายเข้าไป ลิเวอร์พูล หนีเป็น 5-1 ช่วงที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้
จบเกม ลิเวอร์พูล ฟอร์มเยี่ยมเปิดบ้านถล่ม นอริช ซิตี้ 5-1 เก็บสามแต้มเต็มรั้งอันดับ
4 ของตารางคะแนน
เดิมพันกีฬา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 ฤดูกาล 2013-14 วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2556 เวสต์บรอมวิช เปิดสนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ประตูต่อ 3 เดอะ แบ็กกี้ส์ เรียก เคลาดิโอ ยาค็อบ คืนตัวจริงแทน ยุสซุฟ มูลุมบู ที่ติดโทษแบน อีก 2 คน สตีเว่น รีด แบ็กขวา กับ ไซโด้ เบราฮิโน่ กองหน้า ได้โอกาสตัวจริง ด้าน เรือใบสีฟ้า ได้ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี กัปตันทีมฟิตกลับมาลงตัวจริงแล้ว ที่เหลืออีก 2 ตำแหน่ง อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ กับ เอดิน เชโก้ ก็เบียดลงตัวจริงด้วย เริ่มเกมมา 6 นาที ทีมเยือนเป็นฝ่ายทักทายเจ้าถิ่นก่อน เอดิน เชโก้ พักอกให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ฮาล์ฟวอลเล่ย์หลุดเสาไกลออกไป ถึงนาทีที่ 9 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ ปาโบล ซาบาเลต้า สอดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา แล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ อเกวโร่ ซัดด้วยขวาระยะ 8 หลาเสยเพดานตาข่ายเต็มๆ เป็นประตูที่ 11 ของ กุน ในลีกแล้ว ผู้มาเยือนเล่นง่ายขึ้นมาก จนกระทั่งนาทีที่ 24 ก็หนีห่าง 2-0 อย่างง่ายดาย อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ พาบอลลุยขึ้นทางซ้ายแล้วผ่านเข้ากลาง ยาย่า ตูเร่ สังหารเสียบเสาไกลไม่พลาดเป้า จบครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า นำสบาย 2-0 เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษในนาทีที่ 74 อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ลากบอลเข้ากรอบโทษด้านซ้ายแล้วโดน เคลาดิโอ ยาค็อบ ตามมาจิ้มจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ ยาย่า ตูเร่ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปเป็น 3-0 นาทีที่ 85 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีไข่แตก จังหวะที่ ไซโด้ เบราฮิโน่ ได้ซัดในกรอบไปโดนตัว คอสเทล ปันติลิมอน ปลิ้นเข้าประตูตัวเอง เวสต์บรอมวิช ไล่มาเป็น 1-3 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ พาบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเรียดให้ เดอะ แบ็กกี้ส์ ไล่ตาม 2-3 จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเฉือน เวสต์บรอมวิช ไปแบบหืดขึ้นคอ 3-2 ยังเกาะกลุ่มผู้นำเอาไว้ได้ต่อไป เดิมพันกีฬาในแบบออนไลน์ กับบริษัทรับพนันระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น สโบเบท, ไอบีซีเบท, เอ็ม8เบท, วินนิ่งเอฟที พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
เดิมพันกีฬา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 ฤดูกาล 2013-14 วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2556 เวสต์บรอมวิช เปิดสนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ประตูต่อ 3 เดอะ แบ็กกี้ส์ เรียก เคลาดิโอ ยาค็อบ คืนตัวจริงแทน ยุสซุฟ มูลุมบู ที่ติดโทษแบน อีก 2 คน สตีเว่น รีด แบ็กขวา กับ ไซโด้ เบราฮิโน่ กองหน้า ได้โอกาสตัวจริง ด้าน เรือใบสีฟ้า ได้ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี กัปตันทีมฟิตกลับมาลงตัวจริงแล้ว ที่เหลืออีก 2 ตำแหน่ง อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ กับ เอดิน เชโก้ ก็เบียดลงตัวจริงด้วย เริ่มเกมมา 6 นาที ทีมเยือนเป็นฝ่ายทักทายเจ้าถิ่นก่อน เอดิน เชโก้ พักอกให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ฮาล์ฟวอลเล่ย์หลุดเสาไกลออกไป ถึงนาทีที่ 9 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ ปาโบล ซาบาเลต้า สอดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา แล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ อเกวโร่ ซัดด้วยขวาระยะ 8 หลาเสยเพดานตาข่ายเต็มๆ เป็นประตูที่ 11 ของ กุน ในลีกแล้ว ผู้มาเยือนเล่นง่ายขึ้นมาก จนกระทั่งนาทีที่ 24 ก็หนีห่าง 2-0 อย่างง่ายดาย อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ พาบอลลุยขึ้นทางซ้ายแล้วผ่านเข้ากลาง ยาย่า ตูเร่ สังหารเสียบเสาไกลไม่พลาดเป้า จบครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า นำสบาย 2-0 เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษในนาทีที่ 74 อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ลากบอลเข้ากรอบโทษด้านซ้ายแล้วโดน เคลาดิโอ ยาค็อบ ตามมาจิ้มจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ ยาย่า ตูเร่ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปเป็น 3-0 นาทีที่ 85 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีไข่แตก จังหวะที่ ไซโด้ เบราฮิโน่ ได้ซัดในกรอบไปโดนตัว คอสเทล ปันติลิมอน ปลิ้นเข้าประตูตัวเอง เวสต์บรอมวิช ไล่มาเป็น 1-3 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ พาบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเรียดให้ เดอะ แบ็กกี้ส์ ไล่ตาม 2-3 จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเฉือน เวสต์บรอมวิช ไปแบบหืดขึ้นคอ 3-2 ยังเกาะกลุ่มผู้นำเอาไว้ได้ต่อไป เดิมพันกีฬาในแบบออนไลน์ กับบริษัทรับพนันระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น สโบเบท, ไอบีซีเบท, เอ็ม8เบท, วินนิ่งเอฟที พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น